title

BLOG

 

ระบบ ERP คืออะไร?

04 Jun 2025, by admin in Uncategorized

ERP หรือชื่อเต็มว่า Enterprise Resource Planning คือระบบซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้บริษัทบริหารจัดการทรัพยากรต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น คน, เวลา, เครื่องจักร, หรือ งบประมาณ เป้าหมายของระบบนี้คือ ทำให้ทุกอย่างในองค์กรทำงานสอดประสานกันและลดความซ้ำซ้อนในการทำงาน

สำหรับบริษัทด้านวิศวกรรม ระบบ ERP สามารถช่วยในหลายส่วน เช่น

  • การวางแผนและควบคุมกระบวนการผลิต
  • การจัดการวัสดุและสต็อกสินค้า
  • การดูแลข้อมูลพนักงาน
  • การจัดซื้อจัดจ้าง
  • การขายและการให้บริการลูกค้า
  • การจัดการบัญชีและต้นทุน

ระบบ ERP จะรวมข้อมูลจากทุกแผนกไว้ในที่เดียว ทำให้ผู้บริหารมองภาพรวมของธุรกิจได้ง่ายขึ้น ตัดสินใจได้เร็วและแม่นยำขึ้น และช่วยให้ทีมงานทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น

ระบบ ERP ทำงานอย่างไร?

ระบบ ERP เปรียบเสมือน “ศูนย์กลางการทำงาน” ของบริษัท เพราะมันเชื่อมโยงทุกแผนก ทุกกระบวนการ และขั้นตอนการทำงานเข้าด้วยกันในระบบเดียว ช่วยให้เห็นภาพรวมของทรัพยากรที่มีอยู่ และสามารถบริหารจัดการ วางแผน และควบคุมการใช้งานทรัพยากรเหล่านั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยระบบสมัยใหม่สามารถทำงานแบบเรียลไทม์ (Real-time) ได้อีกด้วย

หัวใจสำคัญของระบบ ERP คือ การเชื่อมโยงขั้นตอนการทำงาน (Workflow) และ ข้อมูลต่างๆ ขององค์กร ไว้ในระบบเดียวกัน ผ่านการจัดการข้อมูลแบบรวมศูนย์ (Centralized Data Management) ซึ่งจะช่วยให้

  • เก็บข้อมูลไว้ในที่เดียว
  • ลดความซ้ำซ้อน
  • เพิ่มความแม่นยำของข้อมูล
  • ส่งต่อข้อมูลระหว่างแผนกได้อย่างลื่นไหล

แม้ว่า ERP จะรองรับการทำงานได้หลากหลายอยู่แล้ว แต่ในการใช้งานจริง บริษัทมักต้องเชื่อมต่อ ERP เข้ากับระบบอื่นๆ ด้วย เพื่อให้สามารถมองเห็นภาพรวมของทุกกระบวนการได้ครบถ้วน

ระบบ ERP ยุคใหม่สามารถเชื่อมต่อกับโปรแกรมหรือฐานข้อมูลภายนอกได้ง่าย ผ่านการใช้งาน API หรือปลั๊กอิน (Plug-ins) เช่น ระบบ OPC Router ที่รองรับการเชื่อมต่อผ่านอินเทอร์เฟซ ERP/SOAP ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการเชื่อมระบบเข้าด้วยกัน

ประเภทของระบบ ERP

การติดตั้งระบบ ERP สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ แบบติดตั้งภายในองค์กร (On-premises), แบบคลาวด์ (Cloud-based) และ แบบผสม (Hybrid)

1. ระบบ ERP แบบติดตั้งภายในองค์กร (On-premises)

ระบบนี้จะติดตั้งอยู่บนเซิร์ฟเวอร์และคอมพิวเตอร์ของบริษัทเอง และดูแลโดยทีมไอทีภายในองค์กร ข้อดีคือไม่มีค่าใช้จ่ายรายเดือนหรือรายปี และสามารถปรับแต่งซอฟต์แวร์ให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะของบริษัทได้ อีกทั้งข้อมูลทั้งหมดก็จะถูกเก็บไว้ภายในองค์กร จึงมีความปลอดภัยสูง

แต่ข้อเสียคือ ต้องลงทุนครั้งแรกสูง และต้องรับผิดชอบเรื่องการอัปเกรดระบบเองทั้งหมด

2. ระบบ ERP แบบคลาวด์ (Cloud-based)

ระบบนี้เรียกว่า SaaS (Software as a Service) คือบริษัทใช้ซอฟต์แวร์ผ่านอินเทอร์เน็ต โดยซอฟต์แวร์จะอยู่บนเซิร์ฟเวอร์ของผู้ให้บริการ ซึ่งผู้ให้บริการจะดูแลทั้งการบำรุงรักษา การอัปเดตระบบ และความปลอดภัยของข้อมูลให้ทั้งหมด

ข้อดีคือ ไม่ต้องลงทุนสูงในช่วงเริ่มต้น ใช้งานง่าย เข้าถึงฟีเจอร์ใหม่ ๆ ได้รวดเร็ว เชื่อมต่อระบบอื่น ๆ ได้ง่าย และสามารถขยายการใช้งานได้ตามการเติบโตของธุรกิจ

3. ระบบ ERP แบบผสม (Hybrid)

เป็นการผสมผสานระหว่างระบบ ERP ที่ติดตั้งภายในองค์กรกับระบบ ERP แบบคลาวด์ ซึ่งช่วยให้บริษัทมีความยืดหยุ่นในการเลือกใช้ระบบตามความเหมาะสมของแต่ละแผนกหรือกระบวนการ เช่น บางส่วนอาจต้องเก็บข้อมูลไว้ภายในบริษัทเพื่อความปลอดภัยหรือข้อกำหนดของอุตสาหกรรม แต่ส่วนอื่น ๆ อาจใช้ระบบคลาวด์เพื่อความคล่องตัวและทันสมัย


NO COMMENT

Sorry, the comment form is closed at this time.